-
ปั่นถึงลำปาง! รณรงค์ให้พ่อแม่ฉุดคิด อย่าพึ่งเอาลูก ฉีดวัคซีนเด็ก อายุ 5 – 11 ปี ตั้งใจปั่นไปกรุงเทพ (ดูคลิปภาพ)
วันจันทร์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:57 น.
วันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 15.50 น. กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ สาขาภาคเหนือ นำโดย ดร.ณฐพบธรรม พบธรรมเจริญใจ อายุ 53 ปี เลขาธิการกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ สาขาภาคเหนือ พร้อมด้วยนักวิชาการอิสระ และนักกิจกรรม เพื่อสังคม ได้ปั่นจักรยานเข้าเขต จ.ลำปาง แล้ว หลังเริ่มปั่นออกมาจากจุดเริ่มต้น ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อจะปั่นมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพมหานคร ระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร เพื่อจะยื่นหนังสือต่อ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
การปั่นจักรยานครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรม “ปั่นรณรงค์ เพื่อเด็กไทย ปลอดภัยจากวัคซีนทดลอง” ซึ่งกำหนดเริ่มปั่น 24 มกราคม 2565 โดยกำหนดใช้ระยะเวลา 7 วัน ไปถึงกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 30 มกราคม 2565 เริ่มต้นจาก จ.เชียงใหม่ ปั่นผ่าน จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง , วันอังคารที่ 25 มกราคม กำหนดปั่นออกจา จ.ลำปาง เข้าสู่ จ.ตาก , วันพุธที่ 26 มกราคม ปั่นจาก จ.ตาก – สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก , วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม จาก จ.พิษณุโลก – พิจิตร และ จ.นครสวรรค์
วันศุกร์ที่ 28 มกราคม จ.นครสวรรค์ – จ.อุทัยธานี – ชัยนาท , วันเสาร์ที่ 29 มกราคม จ.ชัยนาท – สิงห์บุรี – อ่างทอง , วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม จ.อ่างทอง – พระนครศรีอยุธยา – นนทุบรี – กรุงเทพมหานคร , วันที่ 31 มกราคม 2565 กลุ่มจะเข้ายื่นหนังสือขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทบทวนมาตรการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียน อายุ 5 – 11 ปี
ดร.ณฐพบธรรม พบธรรมเจริญใจ เลขาธิการกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ สาขาภาคเหนือ ได้ปั่นขึ้นเขาดอยขุนตาล บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายลำปาง – เชียงใหม่ เข้าเขต อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ก่อนที่จะหยุดพักเหนื่อยบริเวณที่หน่วยบริการประชาชนดอยขุนตาล ใกล้กับมณฑลพระศรีสามเมือง และศาลเจ้าพ่อขุนตาล รอยต่อ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง และ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร ได้มาสอบถามถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าว
โดย ดร.ณฐพบธรรม กล่าวว่า เป้าหมายจะปั่นไปกรุงเทพฯ ซึ่งเหตุผลที่จัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อตั้งใจจะไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการสะท้อนถึงปัญหาการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็ก อายุระหว่าง 5 – 11 ปี ไม่อยากให้เด็กๆ เป็นหนูทดลองการฉีดวัคซีน ที่จะมีการเริ่มฉีดในช่วงสิ้นเดือนนี้ เพราะยังไม่มีผลการศึกษาใด ให้ความมั่นใจว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดให้กับเด็กๆ กลุ่มอายุนี้ ปลอดภัย 100 % โดยจะไม่มีผลข้างเคียง ทั้งหลังฉีด และในระยะยาว
“ความตั้งในของตนเองไม่ได้เน้นทะเลาะ ไม่เน้นการเมือง อยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองฉุดคิดสักหน่อย เกี่ยวกับการให้บุตรหลานไปรับวัคซีน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น หลังวัคซีนจะทำให้เกิดความสูญเสีย และจบอนาคตกับเด็กๆ ซึ่งเป็นบุตรหลานของท่านทันที อยากให้ทุกคนรออีกสักหน่อย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่า วัคซีนที่ไทยนำมาฉีดให้กับเด็กๆ นั้นปลอดภัย เพราะเราเห็นกรณีที่เกิดขึ้นกับเด็ก อายุ 12 ปี ขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนไป ต้องเกิดความสูญเสีย และหมดอนาคตกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น”
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา มีหลายโรงเรียนริดรอนสิทธิ์เด็กๆ เหมือนเป็นการบังคับ หากเด็กคนไหนไม่ฉีดวัคซีน ก็จะไม่ให้ไปโรงเรียน หรือเข้าเรียน ต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน ตลอดจนให้มีการตรวจ ATK เด็ก ก่อนไปโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ฉะนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ พ่อแม่ผู้ปกครอง จึงจำใจให้บุตรหลานฉีด เพื่อให้ได้ไปโรงเรียน หรือเข้าห้องเรียนได้ จึงอยากไปสะท้อนปัญหาให้ภาครัฐได้ทบทวนต่อมาตรการในระบบการศึกษา และความปลอดภัยต่อเด็กๆ ซึ่งเป็นบุตรหลานของเรา และเป็นทรัพยากรมนุษย์ เป็นอนาคตของชาติไทยเรา ที่ต่อไปเราไม่รู้ว่า ผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นเมื่อไร
สาเหตุที่จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ตนเอง และทางกลุ่มมองว่า การไปยื่นหนังสือเฉยๆ ก็สามารถทำได้ แต่การมาจัดกิจกรรมปั่นจักรยาน จาก จ.เชียงใหม่ ไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างการรับรู้ และให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ฉุดคิดกันสักนิด ว่า การฉีดวัคซีนให้บุตรหลานในกลุ่มเด็กอายุดังกล่างนั้น ปลอดภัยหรือไม่ และไม่มีผลข้างเคียง ตนเองไม่ได้ต่อต้าน หรือคัดค้านการฉีดวัคซีน แต่อยากให้ทุกคนรออีกหน่อย ให้มั่นใจว่า ปลอดภัย ก็ให้บุตรหลานรับวัคซีน ไม่ให้ภาครัฐจะกระตุ้นให้พาเด็กๆ ไปรับวัคซีน โดยที่ไม่ได้ให้ข้อมูล หรือผลการศึกษาใดเลย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะให้เด็กๆ ไปเป็นหนูทดลองของการฉีดวัคซีน.
ฅนลำปางดอทคอม