- Line
หลังจากมีรายงานสถานการณ์ของโรค นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่จังหวัดลำปางได้มีการตรวจสอบ พบการแพร่ระบาดของโรค “ลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease)” หรือ โรคตุ่มพองในโคกระบือ มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันในเดือนตุลาคม 2564 ยังคงมีรายงานสถานการณ์ของโรค โดยพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน กระจายออกไปตามชุมชนหมู่บ้านในเขตท้องที่อำเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด 13 อำเภอ ล่าสุดมีการพบการแพร่ระบาดหนัก ในกลุ่มโคกระบือของเกษตรกรผู้เลี้ยงในท้องที่ 9 ตำบล 52 หมู่บ้าน ของอำเภอแม่ทะ ซึ่งมีรายงานพบโคป่วยในพื้นที่รวมกว่า 529 ตัว เสียชีวิตจากโรค 29 ตัว และยังมีโคกระบือที่เสี่ยงต่อการติดโรค ต้องติดตามเฝ้าดูอาการอีกมากกว่า 60 ตัว
ล่าสุดนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด รวมถึงหน่วยงานอำเภอ ส่วนราชการท้องถิ่นในเขตอำเภอแม่ทะ ได้ร่วมกันลงพื้นที่เขตโรคระบาด ณ ที่บริเวณคอกเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกร ในชุมชนบ้านบอมพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านบอม อำเภอแม่ทะ เพื่อทำการติดตามสำรวจตรวจสอบสถานการณ์ความเสียหาย และให้การช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น แก่เกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดในสัตว์ “โรคลัมปี สกิน”
โดยจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด “ลัมปี สกิน” ทราบว่า ในห้วงเดือนตุลาคม ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในเขตท้องที่ ตำบลบ้านบอม ซึ่งมีโคเนื้อที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ป่วยตายด้วยโรคลัมปี สกิน ไปแล้วรวมกว่า 10 ตัว โดยเกษตรกรบางรายเสียหายหนัก ต้องสูญเสียแม่พันธุ์โคไปถึง 2 ตัว ลูกโค 3 ตัว และยังมีโคที่เริ่มป่วยอีกจำนวนหลายสิบตัว โดยสำหรับในส่วนของความเสียหายและการให้ความช่วยเยียวยาเหลือเบื้องต้น สอบถาม นายศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง ทราบข้อมูลภาพรวมว่า เฉพาะในเขตท้องที่อำเภอแม่ทะ 9 ตำบล 52 หมู่บ้าน ขณะนี้มีการสำรวจพบโคป่วยตายด้วยโรคลัมปี สกิน รวมแล้ว 29 ตัว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่หน่วยงานภาครัฐจะต้องให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่เกษตรกร รวมประมาณ 895,000 บาท
ด้าน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวให้ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในภาพรวมทั้งจังหวัดว่า โรคลัมปี สกิน ถือเป็นโรคทางไวรัสอุบัติใหม่ ที่มีการแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่จังหวัด สาเหตุหลักน่าจะมาจากการเคลื่อนย้ายโคกระบือจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีตัวยารักษาโรคโดยตรง มีเพียงยาวัคซีนที่ใช้เฉพาะในการระงับควบคุมยับยั้งเท่านั้น โดยในส่วนของจังหวัดลำปาง ได้มีการตรวจพบโรคครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ในเขตพื้นที่อำเภอห้างฉัตร และโรคได้มีการแพร่กระจายออกไปตามชุมชนต่างๆ ซึ่งหลังจากที่พบว่ามีการระบาดของโรค ทางจังหวัดลำปางก็ได้มีการประกาศให้ทั่วพื้นที่จังหวัด เป็นพื้นที่เขตโรคระบาดตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายโคกระบือในพื้นที่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคลัมปี สกิน หรือ โรคตุ่มพองในโคกระบือ แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงเพื่อให้เกษตรได้รับทราบถึงลักษณะอาการของโรค ลักษณะการติดต่อ รวมถึงวิธีการป้องกันโรค พร้อมกับได้นำวัคซีนป้องกันมอบกระจายฉีดให้กับโคกระบือในพื้นที่ชุมชนต่างๆ เพื่อทำการจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
โดยสำหรับสถานการณ์ภาพรวมทั้งหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในจังหวัดลำปาง ณ ขณะนี้ถือว่าอยู่ในวงจำกัดไม่รุนแรงมาก ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอทั่วจังหวัด พบว่าจังหวัดลำปางมีจำนวนโคเนื้อที่เกษตรกรเลี้ยงไว้รวมกันทั้งหมดประมาณ 100,000 แสนกว่าตัว ปัจจุบันมีโคป่วยด้วยโรคลัมปี สกิน รวมประมาณ 3,300 ตัว รักษาหายแล้วกว่า 2,900 ตัว ส่วนโคที่เสียชีวิตมีเพียง 241 ตัว คิดเป็นร้อยละไม่ถึง 1% ของจำนวนโคทั้งหมด ซึ่งในส่วนของโคที่เสียชีวิตทางหน่วยงานภาครัฐก็จะมีการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่เกษตรกรทุกราย ตามที่ราชการกำหนดรายละไม่เกิน 5 ตัว อย่างไรก็ตามเพื่อให้การควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกร หากพบเห็น หรือ สงสัยว่าโคกระบือที่เลี้ยงไว้จะป่วยด้วยโรคดังกล่าว ขอให้รีบแจ้งหน่วยงานปศุสัตว์ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ทราบทันที เพื่อทางหน่วยงานจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจสอบ และจำกัดดูแลควบคุมโรคไม่ให้เกิดการแพร่กระจายออกไปสู่วงกว้างได้