เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
อะตอม รอดปาฏิหาริย์ – รอดปาฏิหาริย์ “อะตอม สัมพันธภาพ” อดีตนักแสดงช่อง 7 ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ที่จ.ลำปาง อาการสาหัส เข้ารับการรักษาตัว 45 วัน ถึงสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ ปัจจุบันยังต้องเข้าพบแพทย์ทุกอาทิตย์ รอรับการผ่าตัดนิ้วที่ปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ
ล่าสุดเจ้าตัว พร้อมด้วยภรรยา แนน มณีกรณ์ ที่คอยอยู่ดูแลไม่ห่าง ได้เปิดใจกับทาง ข่าวสดออนไลน์ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
เล่าเหตุการณ์รถล้มที่จ.ลำปาง? อะตอม : “ต้องบอกว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้เลยครับ จำได้แต่ว่าขับรถไปจากกรุงเทพฯเตรียมตัวจะขึ้นไปที่แม่ฮ่องสอน แล้วก็ไปแวะนอนที่ลำปาง ซึ่งหลังจากที่นอนที่ลำปางปุ๊บก็เกิดอุบัติเหตุที่ลำปาง
เนื่องจากมีฝนตกมา 2 วัน แล้วก็มีกู้ภัยแถวๆ นั้น เล่าให้ฟังว่ามีฝนตก แล้วเราดันออกไปตรงจุดๆ นั้นที่เกิดอุบัติเหตุประจำ แล้วเราก็ไปลื่นตรงจุดนั้น ไปฟาดตรงต้นไม้พอดีครับ จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลยครับ ก็มีกู้ภัยมาเล่าให้ฟังหลังจากที่ไปถึงรพ.แล้ว เขาบอกว่ามีการปั๊มหัวใจ หลังจากที่ไม่หายใจประมาณ 6 นาที ก็เป็นเจ้าชายนิทราไปครับผม”
แนน : “พี่เล่าขยายความให้ฟัง ตอนที่เขายังอยู่ไอซียูค่ะ ทางร้อยเวรตรงจุดเกิดเหตุก็แจ้งว่าพี่อะตอม ตอนที่กู้ภัยไปเจอคือชีพจรไม่มีแล้วก็เลยต้องปั๊มหัวใจ ใช้เวลาประมาณ 6 นาทีถึงจะขึ้นมาได้ เพราะว่าเขาเสียเลือดไปเยอะมากค่ะ
เพราะตอนที่เกิดอุบัติเหตุรถตะแคงแล้วไปฟาดกับต้นไม้ ตอนที่กู้ภัยไปเจอคือเลือดออกตรงหัวเยอะมาก อาการก็ค่อนข้างหนักค่ะ คุณหมอบอกว่าตอนที่เย็บหัว ต้องให้เลือดถึงสองถุงเลยเพราะว่าเสียเลือดเยอะมาก”
ตอนนั้นขับรถคนเดียว? อะตอม : “ขับรถไปคนเดียวครับผม ตั้งแต่กรุงเทพฯ”
ตอนที่ทราบข่าวตอนนั้นตกใจ? แนน : “พูดไม่ออกเลยค่ะตอนที่พี่แนนทราบคือตอนที่พี่อะตอมเกิดอุบัติเหตุ ประมาณบ่าย 3 โมงกว่า ตรงนั้นก็มีทั้งร้อยเวร และกู้ภัย โชคดีที่ว่าแฟนคลับของเขาเห็นบัตรประชาชน ก็เลยแวะไลฟ์จุดเกิดเหตุ แล้วเขาก็บอกว่านี่มันพี่อะตอมนี่นา เลยโทรมาหาเพื่อนของพี่อะตอมอีกทีหนึ่ง แล้วก็ถามว่านี่ใช่รถของพี่อะตอมหรือเปล่า
แต่บัตรประชาชนคือพี่อะตอมนะ รุ่นพี่ของพี่อะตอมก็เลยโทรหาพี่แนนว่านี่ใช่รถแฟนเราหรือเปล่า คือทะเบียนใช่แล้ว แต่ในใจเราคิดว่าไม่ใช่หรอกมั้ง แต่พอเห็นบัตรประชาชนก็ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ อึ้ง และสงสารเขาว่าเขาเจ็บขนาดนี้ค่ะ
แต่โชคดีว่าก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุพี่อะตอมจะสอนพี่แนนว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรก็ตาม ต้องตั้งสติให้ดีแล้วก็พยายามประสานคนที่จะช่วยเราให้ได้มากที่สุด ณ ตอนนั้น เลยรวบรวมสติแล้วก็โทรหาคนที่จะพาเขาไปโรงพยาบาลที่รักษาเขาให้ได้เร็วที่สุด เขาก็เลยได้ไปที่โรงพยาบาลลำปางค่ะ”
ช่วงแรกอาการสาหัสขนาดไหน? แนน : “เบื้องต้นเท่าที่แนนทราบ กะโหลกร้าว เลือดออกในสมอง และนิ้วชี้ซ้ายของพี่อะตอมเนื้อหลุดไปทั้งนิ้ว คุณหมอให้พี่แนนเลือกระหว่างตัดนิ้วทิ้ง กับการทำ skin graft การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ตอนนั้นพี่อะตอมก็ยังไม่รู้สึกตัว เพราะใส่เครื่องช่วยหายใจ 5 วัน ขนาดตัวเรา เราเองก็ไม่อยากจะเสียอวัยวะ
พี่แนนก็เลยบอกคุณหมอว่าทำยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องตัดนิ้ว คุณหมอก็เลยวางแผนว่าถ้าชีพจรคงที่แล้วหรือถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้วก็อาจจะทำการผ่าตัดนิ้วให้ พี่แนนตอนนั้นก็พยายามปรึกษาหมอหลายที่ ก็มีทั้งพี่ก้อง ปิยะ และอีกหลายๆ คนที่เขาพยายามให้พี่ได้คุยกับหมอ เลยลงความเห็นว่ารักษาที่โรงพยาบาลลำปางก่อน
เพราะตอนนั้นพี่อะตอมยังไม่ปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายตัวจากลำปาง เลยรักษาเป็นเวลากว่า 30 วันค่ะ โชคดีว่าคุณหมอแจ้งว่าเลือดออกในสมองมันเป็นจุดเล็กๆ แค่ครึ่งเซน ประมาณ 3-4 จุด ส่วนกะโหลกร้าวมันจะหายของมันเอง แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูค่ะ”
ถึงขั้นหลับเป็นเจ้าชายนิทรา? แนน : “ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ พี่อะตอมอาจจะสื่อสารผิดเหมือนกับว่าตอนที่ปั๊มหัวใจ เขาไม่รู้สึกตัวประมาณ 3-4 วัน ไม่รู้ตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น พอหลังจากถอดเครื่องช่วยหายใจวันที่ 5 หมอเขาบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว พ้นโคม่า
แต่ยังต้องดูอาการภาพรวมอยู่ แต่ 30 วันที่รับรักษาตัวที่ลำปาง คือเขาไม่รู้เรื่อง เขาก็เลยเข้าใจว่าตัวเองเป็นเจ้าชายนิทรา แต่จริงๆ สมองยังบวมเท่าที่คุณหมออัพเดตช่วง 20 วันแรก ยังมีการกดประสาทสมองส่วนหน้า เขาเลยจะไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร คือเขาเพิ่งจะรู้สึกตัว และรู้ตัวเองคือตอนที่กลับมารักษาตัวที่กรุงเทพฯแล้ว”
ตอนนั้นกำลังใจดีแค่ไหน กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้? อะตอม : “ต้องบอกว่าตอนแรก ใครมาเยี่ยมก็แซวเพื่อนหมดเลยครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุมาหนักแค่ไหน เราเพิ่งมารู้หลังจากที่เรามาอยู่กรุงเทพฯ
ต้องบอกว่าหลังจากที่ลงมาจากลำปาง พอเรามาดูข่าวที่เกิดขึ้น ก็เพิ่งรู้ว่านี่มันหนักเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เราก็ยังลืมอยู่หลายเรื่องครับ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังลืมหลายเรื่องไม่ว่าเป็นเรื่องที่เคยพูดกับคนอื่นเอาไว้ เห็นเหตุการณ์เก่าๆ หลายเรื่องมาก”
แนน : “คุณหมอบอกว่าเขาจะขี้ลืมนิดๆ คือประมาณสิ้นเดือนสิงหาคม คุณหมอสแกนสมองอีกรอบหนึ่งก็ยังเจอน้ำในสมองอยู่คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 เดือน เพื่อดูว่าน้ำในสมองยุบลงมั้ย ก็ คือสิ้นเดือนนี้พี่อะตอมจะต้องดูซีทีสแกนอีกทีหนึ่งว่าสมองยุบลงไหม
ส่วนเรื่องกำลังใจทางเพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการ และเพื่อนในวงการกีฬาเทนนิส และกลุ่มเพื่อนที่เขาสนิทในกู้ภัยส่งกำลังใจมาให้พี่อะตอมเยอะมาก ทั้ง พี่เอ ศุภชัย, ก้อง ปิยะ, แตงโม หลายคนเลยค่ะที่ส่งกำลังใจมาให้พี่แนนเชื่อว่าที่พี่อะตอมฟื้นเร็วขึ้นเพราะทุกคนส่งกำลังใจมาให้และอีกอย่าง
คือพี่อะตอมเป็นคนออกกำลังกาย นี่คือข้อดีของคนที่ออกกำลังกายดูแลตัวเอง พี่แนนก็ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงก็อยากให้หายเร็วๆ เหมือนกัน ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้ค่ะ”
ได้ยินว่าจะมีผ่าตัดเพิ่มเติม? แนน : “ใช่ค่ะ เมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคมผ่าแขนไป คุณหมอได้เอาเนื้อตรงท้องแขนมาหุ้มนิ้วเพื่อไม่ให้เนื้อที่นิ้วตาย เดี๋ยวกลางเดือนหน้าก็จะต้องผ่าให้นิ้วเล็กลงและใช้งานได้ ก็อาจจะต้องผ่า 2-3 รอบ
ส่วนเรื่องสมองเดี๋ยวซีทีสแกน อีกรอบหนึ่งก็น่าจะรู้ว่าคุณหมอจะให้ยาสมองเพิ่มเติมอะไรหรือเปล่าแล้วก็ให้พักผ่อนเยอะๆ ได้เดินออกกำลังกายบ้าง และคุณหมอแนะนำว่าห้ามเครียดเล่นโทรศัพท์ให้น้อยลง เพราะบางทีคลื่นมันรบกวนเรา ทำให้มันฟื้นฟูช้า”
รู้สึกยังไงบ้าง แฟนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง? อะตอม : “ต้องบอกว่าถ้าเกิดเราไม่มีแนน เราอยู่ถึงวันนี้ไม่ได้แน่นอน เราไม่ได้พูดเพราะว่าเขาเป็นแฟนเรานะ แต่เราพูดเพราะว่าถ้าเกิดไม่มีเขาจริงๆ ทางโรงพยาบาลไม่น่าจะดูแลเราได้ดีเท่านี้แน่นอน แล้วเราก็คงจะหลงลืมเยอะมากๆ
แนนก็ดูแลเรามาประมาณ 2 เดือนกว่า เกือบสามเดือนเกือบทุกวัน แล้ววันหนึ่งก็ดูแลหลายเรื่องมากต้องขอบคุณแนนมากๆ”
ทางครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง? อะตอม : “คุณแม่เห็นหน้าตอนแรกก็ร้องไห้เลยครับ พี่เลี้ยงที่ดูแลมาตั้งแต่เด็กก็ร้องไห้หมดทุกคน เราก็บอกว่าไม่เป็นไรครับ มันเกิดขึ้นได้ เราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แต่ก็พยายามมีสติในทุกๆ วัน หลังจากนี้ไปก็ขอให้มีสติ”
คุณหมอห้ามขับรถ? อะตอม : “ต้องบอกว่าหยุดขับเลยครับ คุณหมอบอกห้ามแตะรถเลย”
แนน : “คุณหมอสั่งเลยค่ะ ว่างดขับรถ 6-7 เดือน ก็คงจะซิ่งน้อยลงแล้วค่ะ”
หลังจากที่หายมีการไปทำบุญ? แนน : “มีทำบุญหลายรอบเลยค่ะไปถวายสังฆทานทำบุญใหญ่ให้เจ้ากรรมนายเวรตามความเชื่อของศาสนาพุทธแล้วก็ทำเรื่อยๆ พยายามทานมังสวิรัติบ้างเป็นบางมื้อ”
ค่าใช้จ่ายมีประกันช่วยไหม? แนน : “โชคดีว่ามีประกันสุขภาพค่ะแต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด เพราะว่าประกันสุขภาพจะครอบคลุมแค่เวลาแอดมิตอยู่ในโรงพยาบาล ตอนนี้คือเวลาที่เราพาพี่อะตอมไปตรวจทุกอาทิตย์ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตรงนั้นเราก็ต้องรับผิดชอบ”
เห็นว่าก่อนหน้านี้เป็นนักเทนนิสทีมชาติ ถ้าเกิดเราหายจะสามารถกลับมาเล่นกีฬาได้ไหม? อะตอม “ต้องบอกว่าเล่นแน่นอนครับ ตอนนี้เห็นเพื่อนเห็นน้องเล่นก็อยากเล่นมากๆ แต่ว่าน่าจะเริ่มเล่นได้น่าจะเดือนมีนาคมเป็นต้นไปถึงจะเริ่มจับไม้เล่นได้”
อัพเดตชีวิตหน่อยตอนนี้ทำอาชีพอะไรในช่วงโควิด? แนน : “ตอนนี้พี่อะตอมยังทำงานหลักไม่ได้ ทั้งเรื่องโควิดด้วยและอุบัติเหตุด้วย ตอนนี้โชคดีที่พี่อะตอมเริ่มกลับมาช่วยแพ็กของได้ เพราะพี่แนนก็ขายผลิตภัณฑ์อาหาร ขายกุนเชียงค่ะ เขาก็ช่วยกันรับออร์เดอร์ แพ็กส่งลูกค้าค่ะ
ถามว่าขายดีมั้ย ก็เรื่อยๆ มีออร์เดอร์เข้ามาทุกวันอยู่ค่ะ พี่อะตอมก็ขยันช่วยแพ็กของช่วยรับออร์เดอร์ตอบไลน์บ้างค่ะ ก็สั่งได้ทั้งในเฟซบุ๊ก ไลน์ ไอจี ค่ะ ชื่อว่าอร่อยเต็มคำ aroitemkham”
พี่อะตอมยังจะกลับมาทำงานกู้ภัย? อะตอม : “ก็ยังทำอยู่ครับอยู่ที่สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ธนบุรี RDAT6 ถ้าเกิดมือขวาหายมือซ้ายหายเรากลับไปทำแน่นอนครับ”
แนน : “ช่วงนี้พี่อะตอมก็ขอช่วยรับโทรศัพท์ประชาสัมพันธ์ให้ในช่วงน้ำท่วมว่าขาดเหลืออะไรสามารถบริจาคได้ที่ไหนแล้วก็ช่วยประสานงานโควิดด้วยบ้าง คือเขาบอกว่ากู้ภัยมันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้วถึงช่วยเรื่องกู้ภัยไม่ได้ก็ช่วยในเรื่องประสานงาน”
อะตอม : “กู้ภัยอยู่ในสายเลือดเลยครับต้องบอกว่าตอนที่เกิดเหตุ แล้วก็ช่วงที่พักอยากไปช่วยมาก อยากไปช่วยคนอื่นมากๆ แต่ว่าด้วยร่างกายและแขนทั้งสองข้างและเรื่องสมองเองก็ไม่สามารถที่จะไปช่วยคนอื่นได้เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อนครับ”
จะมีผลงานในวงการบันเทิงให้เห็นอีกไหม? อะตอม : “ปีหน้ามีแน่นอนครับเราจะรับละครกับหนังสั้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นหนังสั้นทางทีวีหรือว่าจะเป็นภาพยนตร์ทางโรงภาพยนตร์”
ตอนนี้กังวลอะไร? อะตอม : “ไม่มีครับมีก็แต่เมื่อไหร่จะผ่าตัดให้เสร็จเร็วๆ สักที เพราะอยากจะไปนู่นไปนี่เยอะมากเลยครับ จากคนที่เคยตื่นเช้าทำนั่นนี่ตลอดเวลา เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้ก็อยากให้รีบผ่าตัดเร็วๆ รีบหาย เราจะได้ออกไปทำนั่นนี่ได้ครับ”